ผู้นำด้านความปลอดภัย กับการทำงานของสมอง
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับหัวหน้างานหลายคนเกี่ยวกับเรื่องของ “การช่วยกันเตือนช่วยกันบอก” เมื่อลูกน้องทำงานด้วยความไม่ปลอดภัย
ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการที่สำคัญมาก เป็นการหยุดพฤติกรรม เพื่อเสี่ยงพฤติกรรมความปลอดภัย
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือหัวหน้างานหลายคน ไม่กล้าที่จะเข้าไปตักเตือน โดยให้เหตุผลว่า กลัวลูกน้องโกรธ กลัวลูกน้องไม่ทำงาน กลัวว่าเขาจะสวนกลับมา กลัวว่างานจะล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ
เห็นไหมครับว่าในแต่ละคำตอบ ถ้าเราตั้งใจฟังให้ดี เราจะเห็นว่าทุกๆการกรtทำ ล้วนมีเบื้องหลังซ่อนอยู่เสมอ ในสถานการณ์นี้ สิ่งที่เราพบก็คือ “ความกลัว” นั่นเอง
ความกลัวมาจากการทำงานของสมองของเรา
โดยสมองของเราสามารถแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ สมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง และสมองส่วนท้าย
1. สมองส่วนท้าย
เป็นสมองดึกดำบรรพ์ ซึ่งพบได้ในสัตว์เลื้อยคลาน และเชื่อว่ามนุษย์เองก็อาจจะเคยเป็นสัตว์เลื้อยคลานมาก่อน โดยสมองส่วนนี้ทำหน้าที่ตามสัญชาตญาณ มีความอัตโนมัติ เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ อธิบายแบบนี้ง่ายๆก็คือ มันตัดสินใจทำอะไร โดยที่เราไม่ต้องคิดวิเคราะห์ หรือ ตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินอัตโนมัติเอง เช่น หนี สู้ หรือ แกล้งตาย
2. สมองส่วนกลาง
เป็นสมองส่วนที่พบได้ในสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม รวมถึงมนุษย์ด้วย เป็นสมองที่พัฒนามาเพื่อให้เราสามารถที่จะปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เราอยู่ได้ ทำให้เราสามารถที่จะรับรู้และแสดงอารมณ์ต่างๆเพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็น รัก โลภ โกรธ หลง ล้วนมาจากการทำงานของสมองส่วนนี้ทั้งนั้น
แต่ถ้าสมองส่วนนี้ทำงานมากเกินไปก็อาจจะทำให้เป็นโรคทางจิตเวชได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคซึมเศร้า วิตกกังวล โรคเครียด และอื่นๆ
3. สมองส่วนหน้า
เป็นสมองที่เกิดขึ้นมาใหม่ล่าสุด มีหน้าที่ใน “การคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ” และยังช่วยทำให้จิตใจสงบ ลดการกระตุ้นในการทำงานของสมองส่วนกลางให้น้อยลง เห็นโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น
เราจะเห็นว่าความกลัว ล้วนมาจากการทำงานของสมองส่วนกลางเป็นหลัก นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาศักยภาพของเราได้เต็มที่
สิ่งที่สำคัญมากๆก็คือ จะต้องรู้วิธีการใช้สมองส่วนหน้า โดยการใช้สมองส่วนหน้านั้น จำเป็นต้องอาศัยการฝึกการรู้ตัวบ่อยๆ
ตรงนี้อาจจะดูแปลกๆที่จะชวนกันมาเจริญสติกัน แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด แต่มันคือวิถีชีวิตพื้นฐาน ที่มนุษย์ทุกคนต้องทำ แต่หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่งมงาย หรือว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
ผมบอกได้แค่นี้ครับว่า สติ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด หากไม่เชื่อให้ลองนึกถึงเหตุการณ์ที่เราเคยทำเมื่อขาดสติ หรือ เราถูกคนที่ขาดสติกระทำกับเรา
การฝึกสมองส่วนหน้าให้ทำงานได้ดีขึ้น จะทำให้เกิดสภาวะผ่อนคลาย สงบ กล้าคิด และกล้าตัดสินใจมากขึ้น
ดังนั้น ถ้าเราต้องการที่จะตักเตือนพนักงาน ก็ต้องทำความเข้าใจให้ดีครับว่า ที่จริงแล้ว เรากลัวอะไร แล้วที่เรากลัวน่ะ มันจริงหรือเปล่า หรือว่าเราปรุงแต่งเอาเอง
แต่ถ้าไม่ชอบการเจริญสติ ก็ลองหาข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมได้ครับ เช่น การเข้าสัมมนา หรือ อ่านหนังสือ หรือ เสพสิ่งที่มันดีๆให้มากพอครับ ก็ช่วยพัฒนาเรื่องของการคิดวิเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้นครับ
และที่แน่ๆการที่อ่านหนังสือเพียงแค่ 5 นาที ก็ทำให้สมาธิเกิดขึ้นได้แล้วครับ
เมื่อมีสมาธิก็จะมีสติ เมื่อมีสติก็จะเกิดปัญญา โดยอาศัยความสงบทางจิตใจนั่นเอง
ลองหาเวลาฝึกอยู่เงียบๆ อยู่กับความสงบ ฝึกอยู่นะตัวเองแล้วรับรองได้เลยว่า จะมีความคิดดีๆมากขึ้นครับ
เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า เปลี่ยนพฤติกรรมความเสี่ยง ให้เป็นพฤติกรรมความปลอดภัย
ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย
วิทยากร โค้ช นักเขียน และที่ปรึกษา
ติดต่ออบรม www.pramoteo.com หรือแอดที่ LINE @thesafetycoach
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments
- เวลาที่เรานำเสนอนายจ้าง ให้มีการอบรม หรือ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานต่างๆ ด้านความปลอดภัย ทันทีที่เราพูดจบ หรือในขณะที่ปากของเรา ยังปิดไม่สนิท ก็จะมีสิ่งที่มองไม่เห็นแทรกเข้ามา...
- What if แปลว่า "อะไรจะเกิดขึ้นถ้า" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธี ในการค้นหาอันตราย เพื่อความปลออภัยในการทำงาน เช่น อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าทำการซ่อมแซมเครื่องจักร โดยไม่ตัดแยกพลังงานอันตราย อะไ...
- อย่าทำตัวเหมือนนักดับเพลิง ! เราจะสังเกตเห็นว่า นักดับเพลิง จะทำหน้าที่ของตนเอง เฉพาะตอนนี้เกิดเหตุไฟไหม้ (ซึ่งจริงๆแล้วมีงาน จิตอาสามากมาย) ซึ่งถ้าโชคดีก็ดับได้ แต่ถ้าโชคร้าย ชี...