อันตรายจากการใช้ What if

 

What if แปลว่า  "อะไรจะเกิดขึ้นถ้า" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธี ในการค้นหาอันตราย เพื่อความปลออภัยในการทำงาน เช่น

  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าทำการซ่อมแซมเครื่องจักร โดยไม่ตัดแยกพลังงานอันตราย
  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าระบบระบายอากาศไม่ทำงาน เมื่อลงไปในที่อับอากาศ
  • อะไรจะเกิดขึ้นถ้า กลับบ้านตีสอง แล้วไม่บอกภรรยา

 

หลักการของ What if เป็นหลักการ โดยการตั้งคำถามง่ายๆ เพื่อให้เห็นอนาคต

 

สมัยที่ผมทำงานประจำ ผมก็นำหลักการนี้มาใช้บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ทำ BBS ( Behavior-Based Safety) ผมมักจะใช้ถามพนักงานเป็นการส่วนตัว เมื่อเห็นเขาทำพฤติกรรมเสี่ยง และมักจะถามในการประชุม คปอ. เพื่อให้เกิดความตระหนักในความปลอดภัย

 

จะเห็นได้ว่า What if มีประโยชน์อย่างมาก เมื่อนำมาใช้ แต่ก็มีโทษเป็นอย่างมากจริงๆ เมื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หากนำมาใช้โดยขาดสติ  

 

ผมมีโอกาสได้โค้ช และ พูดคุยกับน้องๆ จป. หลายคน ที่อยากจะออกมาเป็นวิทยากร หรือ อยากออกมาเป็นนายตัวเอง แต่หลายๆปีผ่านไปเขาก็ยังอยู่ที่เดิม ก็เพราะคำว่า What if นี้แหล่ะ

 

 

ด้วยความที่เราเป็น จป.วิชาชีพ อาชีพที่เราทำ ได้บ่มเพาะความคิดของเราอัตโนมัติ ให้เราใช้ชีวิตด้วยความปลอดภัยโดยไม่ประมาท นั่นหมายความว่าความกลัวที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา มันทำงานเต็มที่ และยึดติดกับพื้นที่ปลอดภัย หรือ Comfort zone อย่างเหนียวแน่น ไม่กล้าออกไปไหน นั่นเพราะคำว่า What if

 

  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าออกมาเป็นวิทยากรแล้วไม่มีคนจ้าง
  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าล้มเหลว
  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน ค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่ายของภรรยาอีกหลายคน

 

จะเห็นว่าคำถามเหล่านี้ นำไปสู่คำตอบเชิงลบ หรือ Negative result

 

หลายคนเถียงผมว่า อาจารย์ปราโมทย์ครับ อย่างน้อยการคาดการณ์ล่วงหน้า ในเรื่องร้ายๆ ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอครับ เพราะความกลัวนี่แหล่ะ ที่ทำให้มนุษย์อยู่รอดได้ 

ใช่ครับผมไม่เถียง ความกลัวให้มนุษย์สืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ แต่ความกล้า ทำให้มนุษย์เกิดการพัฒนา

 

ดังนั้น อยากให้ทำใจให้เป็นกลางกับความกลัว แค่รู้ และดูมันให้ออกว่า หน้าตามันเป็นอย่างไร? แล้วมันเป็นจริงมั้ย? หรือ ว่าเราปรุงแต่ง จนไม่กล้าลงมือทำ ทั้งๆที่มันอาจจะไม่จริง ไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้ 

 

 

วิธีการแก้ปัญหาความกล้ว คือให้คิดถึงผลลัพธ์เชิงบวกที่จะได้รับ Positive result โดยการนำ What if มาใช้ เช่น

  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราทำธุรกิจส่วนตัวแล้วร่ำรวย
  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเรามีเวลาให้กับลูกเมียมากขึ้น
  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราทำงานมีสุขภาพที่ดี ไม่เจ็บไม่ป่วย 
  • อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าคนที่เคยดูถูกเรา มาขอความช่วยเหลือจากเรา

 

สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่า การคิดถึงผลลัพธ์เชิงบวก รวมไปถึงการมองเห็นภาพความสำเร็จ หรือ Visualization ทำให้เราไม่ไปคิดวนกับอุปสรรค แต่เรามุ่งไปที่เป้าหมายที่เราต้องการ 

 

ผมยอมรับว่าผมนำหลักการเหล่านี้มาใช้เป็นอย่างมาก ในการตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ผมมองเห็นภาพของตนเองที่ขึ้นเวทีใหญ่ๆ ผมมองเห็นภาพตัวเองได้รับเชิญไปพูดในบริษัทที่มีชื่อเสียง ผมมองเห็นภาพตัวเองมีคนมาขอกอด มาขอถ่ายรูป ผมมองเห็นหนังสือที่ผมเขียน วางอยู่ที่แผงหนังสือทั่วประเทศ และ ผมมองเห็นภาพตัวเอง มีเวลาอยู่กับลูกๆ และ ภรรยาอย่างมีความสุข เพราะเรามี Visualization เชิงบวกนั้นเอง

 

 

สรุป

  • ให้นำ What if มาใช้ โดยโฟกัสไปที่ผลลัพธ์เชิงบวก แต่ไม่ประมาทผลลัพธ์เชิงลบ
  • มองความกลัวให้เป็นกลาง ตามหลักของไตรลักษณ์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
  • อย่ากลัวจนเกิดเหตุ เพราะมันคือการปรุงแต่งทั้งนั้น ประสาทกินเปล่าๆ
  • มนุษย์พัฒนาได้ เพราะความกล้า ไม่ใช่ความกลัว
  • ความกลัว มันกลัวการเผชิญหน้า ทันทีที่เรากล้าความกลัวมันจะหายไป
  • กล้ามาก่อนเก่งเสมอ 

 

ผมเชื่อว่าทุกคนมีประสิทธิภาพ สามารถเอาชนะความกลัวได้ และ ของให้ทุกคน มีชีวิตที่ดีขึ้นจากการทำงานประจำ หรือ ธุรกิจส่วนตัว

 

ด้วยรัก และ จริงใจ

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

 

ผู้นำด้านความปลอดภัยสร้างได้

เจอกัน 22 ก.ค.ครับ ที่โรงแรมเจปาร์ค ชลบุรี

www.pramoteo.com

#1 โดย: อานนท์ [IP: 223.24.62.xxx]
เมื่อ: 2019-06-16 10:04:07
เป็นบทความที่ดีครับ motivate ผมได้มาก
#2 โดย: ปราโมทย์ [IP: 182.52.178.xxx]
เมื่อ: 2019-06-16 10:16:56
ขอบคุณมากๆครับ
#3 โดย: นภัสกร [IP: 223.24.162.xxx]
เมื่อ: 2019-06-16 12:04:49
ขอบคุณค่ะอาจารย์

ชื่อผู้ตอบ:

แบบฟอร์มติดต่อกลับ


  • เวลาที่เรานำเสนอนายจ้าง ให้มีการอบรม หรือ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานต่างๆ ด้านความปลอดภัย ทันทีที่เราพูดจบ หรือในขณะที่ปากของเรา ยังปิดไม่สนิท ก็จะมีสิ่งที่มองไม่เห็นแทรกเข้ามา...

  • อย่าทำตัวเหมือนนักดับเพลิง ! เราจะสังเกตเห็นว่า นักดับเพลิง จะทำหน้าที่ของตนเอง เฉพาะตอนนี้เกิดเหตุไฟไหม้ (ซึ่งจริงๆแล้วมีงาน จิตอาสามากมาย) ซึ่งถ้าโชคดีก็ดับได้ แต่ถ้าโชคร้าย ชี...

  • ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับหัวหน้างานหลายคนเกี่ยวกับเรื่องของ “การช่วยกันเตือนช่วยกันบอก” เมื่อลูกน้องทำงานด้วยความไม่ปลอดภัย ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการที่สำคัญมาก เป็นการหยุ...
Visitors: 122,548