อยากเป็นนักพูด เซฟตี้ทอล์คโชค์ (Safety Talkshow)

เมื่อ 26 มี.ค.59 ผมได้รับเชิญไปพูด Safety Talkshow ในหัวข้อ พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้ เป็นเวลา 1 ชม. งานนี้ค่อนข้างใหญ่ มีผู้ฟังประมาณ 250 คน ชื่องาน "รวมพลคนรัก Safety ครั้งที่ 2 ปีที่ 10 ซึ่งจัดโดยชมรมเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานพระนคร"

ห้องประชุมดีมากครับ มีเวทีขนาดใหญ่ และที่นั่งดีเยี่ยมมาก เหมือนกับนั่งในโรงภาพยนต์เลยทีเดียว สำหรับคนที่ปกตินั่งบนหนังสือพิมพ์ หรือบนรองเท้าแตะ อาจจะรู้แปลกๆกับความอลังการของงานพอสมควร

โดยรวมถือว่าจัดงานได้ยอดเยี่ยมมากครับ โดยเฉพาะการประกวด แข่งขัน Safety talk จาก จป. หลายๆหน่วยงาน ซึ่งทำได้ดีมาก โดยส่วนตัวผมมองว่าดูแล้วเหมือน "การแบ่งปันมากกว่าแข่งขัน"  แม้ว่าผู้เข้าประกวดบางคน อาจจะถูกบริษัทบังคับให้มาพูด หรือถูกคนในชมรมบังคับให้มา เขาบอกกันแบบนั้น

แต่ทำได้ดีมากๆทุกคนเลยครับ โดยเฉพาะพิธีกรสองท่านบนเวที ฮามาก สร้างบรรยากาศได้ดี

ผมมีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ที่จะช่วยให้การพูด ดียิ่งๆขึ้น สำหรับคนที่จะเอาดีทางอาชีพนี้จริงๆ คือ

1.  ฝึกซ้อม

2.  พูดในสิ่งที่คนฟังได้ประโยชน์ อยากรู้ เกิดความประทับใจ

3.  เตรียมข้อมูลให้เหมาะสมกับหัวข้อ และเวลาที่กำหนด

4.  มีบุคลิกภาพ และการแต่งกายที่น่าสนใจ

5.  ยืนในตำแหน่งที่ผู้ฟังมองเห็นได้ชัดเจน อย่างน้อยคนที่นั่งหลังสุด ต้องเห็นเราครึ่งตัวท่อนบน

6.  เริ่มต้นด้วยอารมณ์ขัน บรรยากาศจะดี บ่งบอกให้คนฟังรู้ว่า วันนี้สนุกแน่ๆ

7.  พูดให้จบเป็นตอนๆ ประทับใจทุก 3 นาที จบแล้วเริ่มใหม่

9.  น้ำเสียงชัดถ้อย ชัดคำ หยุดเป็นบางจังหวะ ให้เขาได้คิด ได้ฮา

10. ตอนจบ ต้องเป็นตอนที่ประทับใจที่สุด

11. อย่าไปฝากชีวิตไว้กับพาวเวอร์พอยน์ เพราะคนฟังเขาตั้งใจมาดูเรา ไม่ได้มาดูสไลด์

หลายครั้งที่ผมได้ยินมาบ่อยๆ สำหรับคนที่อยากจะเป็นวิทยากรความปลอดภัยบ้าง แต่ทำไม่ได้ มักจะมีข้ออ้าง หรือข้อจำกัดเยอะจริงๆ เช่น ไม่มีพรสวรรค์ เป็นคนพูดไม่เก่ง คนพูดเขาเก่ง แต่เราไม่เก่งเหมือนเขานี่นา ไม่เคยเรียนการพูดมา ไม่มีเวที ไม่มีเรื่องราวที่จะเล่า ต่างๆนาๆมากมายที่เป็นข้อจำกัด แล้วคิดมั้ยครับว่า ที่เราคิดแบบนี้มานานแล้ว มันช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นมั้ย มีความสุขขึ้นบ้างมั้ย

เอาใหม่ครับ ลองดูถ้าตัดสินใจแล้วทำได้ทุกคนจริงๆครับ...

คนที่เริ่มต้นด้วยจินตนาการ คือ นักสะสมความสำเร็จ

ส่วนคนที่เริ่มต้นด้วยข้อจำกัด มักจะเป็นนักสะสมความล้มเหลว

คลิก ติดตามกันได้ที่เพจ The Safety Coach ครับ